วันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2560

เวลา...มันเป็นช่วงสั้นๆของมันเท่านั้น. เวลาต่อเวลา ทำหน้าที่ของเวลา เช่นนั้น 
คนตากหาก ที่ยึดเอาช่วงเวลานั้น. เวลาทุกข์ ก็ยึด. เวลาสุข ก็ยึด 
ปล่อยให้เวลา มา กลืนกิน ตัวเอง กว่าจะรู้สึกตัว ก็เสียดายเวลา. 
 สายไปซะแล้ว.
ครูออย
อย่าสำคัญตัวเอง ว่ามีเราคนเดียวทั้งโลก เพราะทั้งโลก ก็มีคนเหมือนเรา อีกตั้งมากมาย. มีเนื้อมีหนัง มีกระดูกเดินได้ แล้วก็ตายเหมือนกันทั้งโลก 
อย่ามองว่าตัวเราสำคัญ ให้มองตัวเราที่เป็นธรรมชาติ เป็นเหมือนคนอื่น มีเกิด แก่ เจ็บ และก็ ตาย 
อย่าหวังให้คนทั้งโลกมามองว่าเราเป็นคนสำคัญ. ถ้าขาดเราไปแล้วคนทั้งโลกจะเสียใจ. 
จงให้ความสำคัญกับธรรมชาติ ถึงเราจะตายไป ธรรมชาติก็ยอมรับเรา 
ครูออย
คนที่พัฒนาในงาน ไม่ใช่คนที่ทำงานปริมาณเยอะๆ แล้วเงินจะเพิ่มขึ้นอย่างเดียว เท่านั้น หมายถึงคุณปรับปรุง พัฒนา แก้ไขงาน ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ. ยกตัวอย่าง ถ้าคุณรับจ้างเป็นแม่ครัวในร้านอาหาร ทำแต่อาหารเดิมๆ. มาหลายปี รสชาติเดิมๆ. บริการ เหมือนเดิม คนมากินเยอะ คุณก็เหนื่อยเยอะ ลูกค้าน้อย คุณก็สบาย นั่งอยู่เฉยๆ. แล้วก็มานั่งบ่น ว่าเงินเดือนน้อย. 


ลองมาคิดกันใหม่ใหม. ลองเอาเวลานั้นมาคิดปรับปรุงสูตรอาหาร. ทำตกแต่งหน้าตาอาหารให้ดูดีขึ้น จัดพรีเซนท์ อาหารให้ดูดี โต๊ะ จาน ถ้วยช้อนชาม ควรปรับปรุงให้มันดู สวยงาม สะอาดสะอ้าน
คนจะสวยเพราะความสะอาด และ การตกแต่ง ทั้งใบหน้าและเครื่องแต่งกาย. อาหารก็เช่นเดียวกัน
บางคนทำงานมาตั้งหลายปี แต่ยังได้เงินเดือนเท่าเดิม หรือเพิ่มเพียงเล็กน้อย. ได้แต่พร่ำบ่นอยู่ทุกวัน ว่าฉันได้เงินเดือนน้อย บริษัท นี้ ให้เงินเดือนฉันต่ำ ไม่เห็นเหมือนคนอื่น ที่อยู่ตำแหน่งเดียวกัน เขาได้เงินเดือนสูงกว่า. และเขาก็ได้แต่บ่น บ่นๆๆๆ ทุกๆวัน. แต่ไม่เคยพัฒนาสิ่งที่ทำ ทุกๆให้มันดีขึ้น เข้ามาตอนแรก ทำได้แค่ไหน ก็เท่านั้น พองานเยอะก็บ่น งานหนักลำบาก ไม่คุ้มกับเงินเดือน. เขาควรจะปรับปรุง พัฒนาตัวเองมากกว่า ที่จะใช้ข้ออ้างว่าฉันทำงานมาตั้งนานทำไมเงินเดือนไม่ขึ้น
ครูออย

Chantaluck Trainer Sudsom

คนส่วนใหญ่เลือกเรียนกับสิ่งง่ายๆ พอทำได้แล้วก็ยึดเอาสิ่ง นั้น ไม่ยอมเรียนรู้การเปลี่ยนแปลง ยอมที่จะอยู่นิ่ง ๆ อยู่กับที่ ในสิ่งที่ตัวเองทำได้แล้ว ไม่เกิดการเรียนรู้ แต่จะอยู่ที่เดิม หากยึดสิ่งนั้นไปนานๆก็จะเกิดทุกข์ ทุกจากความเบื่อหน่าย ทุกข์จากการอยู่ที่เดิมๆ ทุกข์เพราะอยากได้ อยากมี อยากเห็น และอยากเป็น อย่างคนอื่น แต่กลับไม่ยอมเรียนรู้ พัฒนาตัวเอง ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง เพราะมันยาก. หากเขายึดของง่าย และความเคยชินเป็นที่พึ่งเสียแล้ว ก็ยากที่เจริญทั้งสติปัญญาทั้ง ทางโลกและทางธรรม
สิ่งที่ทำให้คนเจริญปัญญาได้ คือการเรียนรู้และ ไม่จมปลักอยู่กับหลักการ ยอมรับและเรียนรู้การเปลี่ยนแปลง เรียนรู้กับสิ่งที่ไม่แน่นอน และไม่ยึดติดกับสิ่งทีรู้ ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ไม่อยู่นิ่ง
ยากกว่าเรียนรู้กับสิ่งที่แน่นอน ดังนั้นจึงมีคนส่วนน้อยที่ มีทุกข์น้อย
คนส่วนใหญ่ที่อยากได้อยากมีกับความง่ายๆ ความสบาย เพียงชั่วครู่และยึดติดกับสิ่งนั้น ก็จะจมปลักกับสิ่งที่ตัวเองคิดว่าแน่แล้ว แต่มีความอยากพ้นจากหลักที่ตัวเองยึด ยิ่งยึดก็ยิ่งทุกข์.
การยิดติดกับความเคยชิน เดิมๆเพราะมันสบาย ไม่ต้องคิดมาก. ไม่ต้องทำมาก แต่หารู้ไม่ว่ามันทำให้เราจมลงและจมลง
สิ่งใดๆในโลกล้วนอนิจจัง มนุษย์ยึดติดกับสิ่งที่ไม่เที่ยง จึงเกิดทุกข์
ครูออย.


ยุคทองของแม่บ้าน

แม่บ้าน ช่วงอายุ 45-50-60 ส่วนใหญ่จะมีคำถาม มาปรึกษาครู ว่าเหตุใด เขาถึงสมัครงานยากเหลือเกิน. เขาก็ยังแข็งแรง ทำงานแม่บ้านได้แบบสบายๆ แถมยังมีประสบการณ์ การทำงาน มาหลายปี มีความชำนาญงานก็สูง ลองมาทำแข่งกับเด็กรุ่นๆ พี่ก็ทำงานได้ดีกว่าเร็วกว่าตั้งเยอะ. ทำไมเขาถึงได้รับ แต่เด็กๆ อายุน้อยๆมาทำงาน ทั้งๆที่ไม่เป็นงานเลย พอรับเด็กใหม่มา ค่าแรงก็ไม่ต่างกัน พี่ทำมาตั้งนาน ชำนาญงานกว่า เก่งกว่า แต่ทำไมได้ค่าแรงเท่ากัน บางที ก็เหลื่อมกัน เล็กน้อย
"ประสบการณ์ งานแม่บ้าน ที่มี มันไม่มีราคาบ้างเลยหรือ"
คำตอบก็คือ ถ้าหากคุณเป็น สินค้า หรือผลิตภัณฑ์ ตัวใดตัวหนึ่ง ที่เป็นสิ่งที่ตลาดต้องการมาก
แต่สินค้านั้น ไม่ได้ถูกพัฒนา และยังคงล้าหลัง เพราะคิดว่ายังไง เขาก็ต้องเลือกเราอยู่ดี
"เอาง่ายๆก็คือ คุณเป็นคนทำความสะอาดแต่ไม่รู้จักความสะอาด. เป็นคนดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ แต่ไม่รู้จักเฟอร์นิเจอร์
เป็นคนใช้น้ำยาทำความสะอาด และน้ำยารักษาเฟอร์นิเจอร์ แต่ไม่รู้จักมัน ว่ามันคืออะไร "
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ขัดถูอยู่ทุกวัน มันคืออะไร เพราะไม่ได้ใส่ใจมัน
ทำงานแบบเดิมๆ ใช้วิธีการแบบเดิม ทำมาอย่างไรก็จะทำแบบนั้น ถ้าหากเขาให้เปลี่ยนวิธีการ ก็อ้างว่า มันยาก ลำบาก วิธีใหม่ไม่เห็นจะดีเลย ฉันก็ทำอย่างนี้มาตั้งหลายปีแล้ว 
 ก็ยังใช้งานฉันได้อยู่นี่. ไม่เอาละ ฉันทำแบบนี้แล้วสบายดี ไม่ต้องเหนื่อยมาก พอๆๆๆ ไม่ต้องมาสอน ไม่ต้องมาบอก. แค่งาน ปัดกวาดเช็ดถู มันจะยากอะไร ฉันก็ทำตั้งแต่สาว จนแก่ ก็ยังหาเงินเลี้ยงตัวได้ (แต่ คุณบ่นทำไม ว่าเงินเดือนน้อย. ค่าแรงต่ำ)
และ คุณเป็นสินค้าที่ตลาดต้องการ แต่กลับทำในสิ่งที่ตลาดไม่ต้องการ
ทำตามความต้องการของตัวเอง มากกว่า คนที่จ้างคุณต้องการ
 เป็นสินค้าที่ผลิตออกมาแบบไม่สนใจความต้องการของผู้บริโภค
นี่คือสิ่งที่เขาไม่เลือกคุณ เพราะไม่ยอมรับการพัฒนา ไปกับโรงแรมสมัยใหม่ ยุคสมัย ที่ลูกค้าของโรงแรม มีทางเลือกมากขึ้น งานออกแบบตกแต่งโรงแรม ก็เปลี่ยนแปลง แต่ตัวคนทำความสะอาดกลับไม่เปลี่ยนวิธีการทำความสะอาด
โรงแรมเปิดใหม่ ที่ พบ อายุ. สองปี ไม่เกิน สามปี ของใช้ เฟอร์นิเจอร์ สุขภัณฑ์ ห้องน้ำ ควรจะมีอายุการใช้ที่ยาวนานกว่านั้น แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น คราบตระกรัน ขึ้นเต็ม ฝักบัว หัวก๊อก ชักโครกเหลืองมีแต่รอยขีดข่วน พื้นห้องน้ำ ฝาผนังมีแต่คราบสบู่ฝังแน่น ขึ้นเชื้อรา เฟอร์นิเจอร์ ในห้องพัก กระดำกระด่าง เพราะการดูแล ที่ผิดวิธี ใช้น้ำยาผิดประเภท
ถ้าหากมีการอบรม หรือมีการสอนงานแม่บ้าน คนที่ไม่เป็นงาน หรือพนักงานใหม่ จะให้ความสนใจ และกระตือรือล้น ที่จะเรียนรู้. สอนอย่างไหนได้อย่างนั้น ต้องการอะไร เนื้องานประมาณไหน เขาจะพยายามทำ แม้ว่าจะทำไม่คล่อง และเชื่องช้า ในระยะแรก แต่นานไปความชำนาญก็เกิดขึ้น.
ถ้าหากเรารู้ว่า เก่า และแก่ และจะเสื่อม ไปตามกาลเวลา. สิ่งที่ควรพัฒนาก็คือปัญญา.
ไม่ใช่รู้แล้วๆๆ. แต่ไม่ทำ
 ปัญญา จะพัฒนาขึ้นได้ ไม่ใช่การรู้หรือการจำ ต้องทำ จนเกิดความชำนาญ และเรียนรู้ควบคู่ไปกับการทำ และเรียนรู้ ยอมรับการเปลี่ยนแปลง

ความชั่ว มันทำง่าย เพราะเป็นการตามใจตัวเอง 
ความดี ก็ทำได้ง่าย แต่มันยากที่ต้องขัดใจตัวเอง
งานใดๆที่ทำด้วยการขัดใจตัวเอง เพื่อคนอื่น มันยากเสมอในช่วงแรก เมื่อนานไปมันจะง่ายขึ้น เพราะถ้าทำดีแล้ว ผลที่ตามมามันจะดีตาม มันจะเป็นต้นทุน แล้วมันจะเป็นกำลังใจ ในการทำงานดีๆต่อไป

ทุกข์เพราะยึดติด

ทุกข์เพราะยึดติด 
ยึดติดในสิ่งที่รู้ รู้แล้วไม่ปล่อยวาง ยึดติดกับความคิด คิดว่าสิ่งที่ตัวเองรู้ และได้มา จะทำให้เรามีความสุข ถ้ามีใครมาพรากไป เราต้องทุกข์แน่ๆ. 
ยึดติดในสิ่งของ คน และสถานที่ คิดว่ามันเป็นของของเรา เกาะเก็บ เกี่ยวมาไว้กับตัว ถ้ามีใครมาพรากมันไป ฉันต้องจมอยู่ในความทุกข์แน่ๆ
หารู้ไม่ ว่าสิ่งเหล่านั้นมันยึดไม่ได้ แม้แต่ร่างกายที่ว่ามันเป็นของเรา มันก็ยังยึดไม่ให้มันแก่เจ็บตายไม่ได้ 
ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็อย่ายึดไว้ให้เป็นทุกข์กับตัวเองและคนอื่น 
ปล่อยวางไว้ แบกมากๆ มันหนัก
ธรรมชาติ ปกติ ธรรมดา อยู่ที่ตัวเรา ไม่ได้อยู่ที่ไหน.
แบกไปยึดไป มันหนัก ทุกข์เปล่าๆ
ทุกข์เพราะรัก ทุกข์เพราะชอบ ทุกข์เพราะอยาก ทุกข์เพราะไม่อยาก
ทุกข์เพราะไม่ปล่อย และยึดติด



การเขียนรีวิว ให้โรงแรม

การเขียนรีวิว ให้โรงแรม ครูเป็นคนหนึ่งที่ชอบอ่าน แต่บาง รีวิวก็เขียนเพื่อความสะใจ หรือ เป็นการเอาแต่ใจ ตัวเอง เพราะเป็นคนใช้ บริการหรือ คนซื้อบริการใช้อารมณ์ในการเขียน บางครั้ง รีวิวนั้นก็ส่งผล ด้านที่เสียหายให้กับสถานที่นั้นๆ ด้วยความตั้งใจ 
รีวิวโดยไม่ใช้เหตุผลว่า สิ่งที่ตัวเองเรียกร้องจากโรงแรมนั้น สมราคา ตามเนื้อผ้าหรือไม่ ลองเปรียบเทียบ ราคาห้องพัก ที่เคยพัก กับที่อื่นดูใหม ว่าเขาขายราคาต่ำ หรือสูง สิ่งที่เขาควรให้และให้ไม่ได้ บางทีเขาขายห้องพักราคาประหยัด และเราก็เลือกโรงแรมนี้เพราะราคาถูกกว่าที่อื่น ดังนั้น การบริการหรือ สิ่งที่โรงแรมจะให้ลูกค้าได้ ต้องมีต้นทุน รวมถึงพนักงานที่จ้างมา ก็ต้องมีจำกัด ทั้งวุฒิการศึกษา และวุฒิภาวะ บ้าง ตามต้นทุนของโรงแรมและราคาที่ขายออกไป
ถ้าคุณให้เหตุผล ในการเลือกโรงแรมที่ราคา ถ้าหากมันไม่สมราคา ที่จ่ายไป ก็ควรที่จะตำหนิติเตียนเขาได้ แต่โปรดช่วยมองต้นทุน โลเคชั่น ราคาที่ดิน ที่โรงแรม ที่เลือกด้วย ว่าอยู่ที่ไหน เขาให้บริการ คุณเหมาะสมหรือไม่ ไม่ใช่ ว่าซื้อบริการเขาแล้วต้องได้ดั่งใจ เป็นโรงแรมแล้ว เขาต้องเอาใจใส่ฉันทุกอย่าง แต่ไม่ยอมช่วยเหลือตัวเองเลยซักอย่าง
เช่น ลืมสายชาร์ตโทรศัพย์ แล้ว ไปยืมพนักงาน แต่เขาไม่มีให้ ก็ ตำหนิเขา ซะเสีย
ตัวเองชอบนอนหมอนแข็ง แต่หมอนโรงแรมนิ่ม ก็ด่าโรงแรม
อาหารเช้าที่เขามีให้บริการ สำหรับโรงแรม ราคาไม่ถึง 1000 บาท บางโรงแรมก็ขาย แค่คืนละ 500-600 บางที่ เขายังอุตส่าห์ เตรียมไว้ เผื่อความสะดวกให้ เราจะได้ไม่ต้องวิ่งไปหาข้าวเช้าข้างนอกตอนรีบไปทำงาน พอเขาเตรียมไม่ดีพอ ก็ว่าเขา ตำหนิเขา
ครูเป็นทั้งคนให้บริการ และเป็นคนใช้บริการ ถ้าหันมามองกันบ้าง เราก็จะจ่ายเงินอย่างมีความสุข นอนอย่างมีความสุข ยอมรับความไม่สมบูรณ์ ของกันและกันได้



พลังความดี(บทเรียนสอนแม่บ้าน)


น้ำจืดแค่หยดเดียว ไม่สามารถทำให้น้ำเค็มในแก้ว กลายเป็นน้ำจืด ที่ใช้ดื่มได้
ความดีก็เช่นกัน การคิดดี มีสติดี คิดบวก แค่ไม่กี่ครั้ง ก็ไม่สามารถทำให้จิตใจผ่องใส มีพลังได้
ต้องทำดี คิดดี ซ้ำๆ หลายๆครั้ง เหมือนกับการหยดน้ำจืด ลงในน้ำเค็มในแก้ว หลายๆหยด นานๆ เข้าบ่อยๆเข้า น้ำเค็มก็จะหายกลายเป็นน้ำจืดไปเอง
ทำดีบ้างชั่วบ้าง คิดดีบ้างคิดชั่วบ้าง เท่าๆกันก็เหมือนกับ การเติมน้ำเค็มทีหนึ่ง เติมน้ำจืดทีหนึ่ง น้ำก็เค็มเหมือนเดิม
หัดเติมน้ำจืด ให้มากกว่าน้ำเค็ม หยดน้ำเค็มให้น้อยลง 
คิดดี ทำดี พูดดี ให้มากขึ้น ลดการคิดชั่ว ทำชั่ว พูดชั่วๆ ให้น้อยลง
จิตใจ จะได้สะอาดผ่องใส มีพลัง มากขึ้น
ครูออย.