วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557

ผลเสียของการเร่งให้แม่บ้านทำห้อง

ผลเสียของการเร่งให้แม่บ้านทำห้อง


โดยปกติ เวลาที่เราเข้าไปพักในโรงแรมเมื่อไปถึงก็อยากจะเข้าห้องพักทันทีเพราะเหนื่อยล้ากับการเดินทาง เมื่อไปถึงที่พนักงานต้อนรับ เรากลับได้คำตอบ ว่าห้องยังไม่สะอาด ก็จะทำให้เราหงุดหงิดหัวเสียทันที จากนั้นก็จะไปกดดันให้พนักงานต้อนรับ หาห้องให้เราให้ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น พนักงานต้อนรับก็จะรีบกดดันแม่บ้านให้ทำห้องให้เสร็จเร็ว ๆ
ในภาพอาจจะมี ห้องนอน และ สถานที่ในร่ม
  โรงแรมขนาดเล็ก หรือ หรือที่เป็นประเภทบูทีคโฮเทล สมัยนี้ส่วนมากจะให้ลูกค้า Check in เวลาประมาณ 14.00 น. และCheck out 12.00 น. เพื่อให้แม่บ้านมีเวลาทำห้องพักมากขึ้น แขกที่เข้าไปพักบางคนอาจเคยชินกับการ Check in  เวลา 12.00 น.   ทำให้เกิดอาการหงุดหงิดเมื่อไม่ได้ห้อง แล้วก็จะไปลงที่ พนักงานต้อนรับ ลูกค้าที่โรงแรมนี่ก็แปลก นะคะเวลา Check in ก็อยากได้ห้องเร็ว ๆ เวลา Check out ก็อยาก late Check out  มันก็ทำให้พนักงานต้อนรับ ก็ต้องรองรับอารมณ์ ของลูกค้า
      ดังนั้นเราก็ต้องเข้าใจ นิดหนึง ว่ามันก็มีห้องพักที่เค้า ออกไปตรงเวลา คิดดูว่าแม่บ้านไม่กี่นาที ที่จะทำห้อง  โดยทั่วไป แม่บ้าน จะทำห้อง กัน 14 ห้องต่อวัน โดยประมาณ บางโรงแรมแม่บ้าน 1 คน ก็จะทำ 20 ห้องต่อวัน แล้วแต่ขนาดห้อง และมาตรฐานความสะอาด  แต่แน่นอนทุกคนก็อยากได้ห้องที่สะอาดที่สุด ดังนั้นเวลาการทำห้องของแม่บ้าน เราก็ต้องบริหารให้ดี  ห้อง Check out แม่บ้านจะใช้เวลาทำห้องประมาณ 30-45 นาที แล้วแต่ความสกปรก และ ชนิดของห้อง อย่างห้องVIP ก็จะมีของใช้ในห้องเยอะหน่อย ต้องเติมนู่นนี่ นั่น ประดิษฐ์ ประดอย จัดระเบียบ ห้ามเกินห้ามขาด ของในห้องอย่างเด็ดขาด  ห้ามลืม นี่เป็นกฏของการทำห้อง VIP ถ้าลืมผ้าขี้ริ้วไว้ในห้อง VIP คอขาด.... 

 อย่างที่ครูเคย เจอลูกค้า ส่วนมากลูกค้าที่มาพัก ห้อง VIP ห้องจะเรียบร้อยมาก แทบไม่ต้องทำอะไรเลย ลูกค้าเขาจะดูแลห้องเราเป็นอย่างดี บางทีก็เจอ แบบ พับผ้าปูให้เรียบร้อย ก็เจอบ้าง ที่ทำห้องรก และสกปรก แต่น้อยมาก แต่ที่สกปรกกลับเป็นห้องที่เราขายห้องราคาถูก แหม้ ... ยำห้องเราซะเละเลย ..
ในภาพอาจจะมี สถานที่ในร่ม
   ..พูดถึงเรื่องลูกค้า ก็มีอะไรจะนินทา เยอะเลย มันเป็นเรื่อง มันๆ ของแม่บ้านที่จะนินทาลูกค้า  อย่างเรื่องผ้าเช็ดเท้า ที่เราเห็นทั่วๆ ไป แม่บ้านจะวางไว้บนชักโครก เคยมีลูกค้าถือผ้าลงมาด่าพนักงานที่หน้าFront ว่า ทำไมผ้าเช็ดหน้าของโรงแรมเธอเป็นอย่างนี้  แข็ง มาก ฉันใช้ไม่ได้ ... เอ่อ.. ประทานโทษ พนักงานก็บอกว่า มันเป็นผ้าเช็ดเท้าค่ะ และลูกค้าก็เถียงอีก อ้าว.. แล้วทำไมไม่บอก ก็เห็นว่ามันติดว่า Welcome ฉันก็คิดว่ามันเป็นผ้าเช็ดหน้านะสิ คราวหลัง ..ก็เขียนติดว่าเป็นผ้าเช็ดเท้าสิ .. เนี่ยะ หน้าฉันจะพังหรือปล่าวก็ไม่รู้ ....  พนักงาน ก็ ผิด.. ตลอด ..  อ่ะ ทีนี้เรามาคุยเรื่องการเร่งการทำห้องของแม่บ้านดู อย่างที่รู้กันอยู่ ว่าแม่บ้านจะใช้เวลาทำห้อง ถึง 30 นาทีต่อห้องCheck out  1 ห้อง ต่อแม่บ้าน 1 คน เมื่อแขกที่เข้าไปพัก เกิดอาการหงุดหงิดอยากได้ห้อง เร็ว ๆ ผลเสียจะตกอยู่ที่ลูกค้า เพราะว่า เมื่อเกิดการกดดันหรือเร่งทำห้องมากๆ แม่บ้านก็เกิดอาการ รวน เข้าไปด้วย ห้องอาจจะไม่สะอาด ใส่ของผิด ๆถูกๆ โดยเฉพาะแม่บ้านมือใหม่ ซึ่งยังไม่คุ้นเคยกับการถูกกดดัน คุณอาจจะไม่ได้ห้องที่สมบูรณ์
ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ห้องนอน และ สถานที่ในร่ม
ข้อสำคัญ ห้องที่ลูกค้า พึ่ง Check out  ออกไป จะมี เชื้อโรค อย่างอากาศที่อยู่ในห้อง กลิ่นบุหรี่ กลิ่นตัว ฝุ่น ละออง ความสกปรกทุกอย่าง มันยังไม่ไปไหนเลย เวลาแม่บ้านทำห้อง check out ครูจะคอยเตือนให้แม่บ้าน ปิดแอร์ เปิดหน้าต่าง ทำห้อง เพื่อไม่ให้แม่บ้านรับเชื้อโรคที่อยู่ในอากาศเข้าไป บางคนไม่เข้าใจ ว่าเวลาทำห้อง ทำไมต้องปิดแอร์ ด้วย มันร้อน ทำงานไม่ได้ แต่อย่างที่บอก ถ้าอยากรับเชื้อโรคที่มันลอยอยู่ ก็ตามใจ.. เพราะลูกค้าที่เข้ามาพัก มาจากหลายๆ ที่อาจเป็นมีโรคร้ายมา โดยที่เราไม่รู้   ทีนี้ หลายโรงแรมอาจใช้สเปร์ ฆ่าเชื้อในอากาศ บางโรงแรมใช้ บางโรงแรมไม่ใช้ บางโรงแรมแม่บ้านไม่ได้เปิดหน้าต่างทำห้อง เราจะรู้ใหม่ .. อาจไม่รู้ เมื่อลูกค้าออกไป แม่บ้านทำห้อง ใช้เวลานิดเดียว เชื้อโรคยังไม่ไปไหนเลย  เราก็เข้าไปนอนอย่างสบาย ใจ แต่ ผลเสียตกอยู่ที่เรา  ดังนั้น เมื่อเข้าไปโรงแรม ลองเลือกโรงแรมที่ ไม่ วุ่นวายมาก ห้องพักได้มีการปล่อยให้ว่าง บ้าง  ก็อาจเป็นผลดีกับเราก็ได้  อย่าไปกดดันพนักงานมากนัก ฝากของไว้ แล้วก็ไป ลัลล้า.. แถวชายหาด หรือไปหาอะไรกิน ดีกว่า ใหม...
ครูออย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น