ต่อ จากเรื่อง แม่บ้าน1คน ต่อ1ห้อง สามารถรับผิด ชอบงานคนเดียวอย่างไรให้ทัน
การเริ่มต้นทำงานในช่วงเช้ามีความสำคัญมาก เพราะจะไม่ทำให้งานโหลดช้าในช่วงเวลาเร่งรีบ
ถ้าหาก ลูกค้า เชคน์เอาน์ทีเดียวพร้อมกันหลายห้อง
แม่บ้านจะเหนื่อยล้า จัดทำห้องไม่ทัน เกิดอาการรีบรน ถูกกดดันเร่งห้องจากF/O
ใหนจะห้องแขกพักต่อก็จะให้ทำช่วงนั้น ห้องเชคเอาน์ก็ต้องทำ ห้องเตรียมลูกค้าเข้า ก็ต้องทำในช่วงเวลาเดียวกันคือช่วง11-13.00น. เป็นเวลาพักกลางวันพอดี ข้าวก็ยังไม่ได้กินหิวก็หิวเครียดก็เครียด มือเท้าก็อ่อนแรง (เจ็บส้นตีนเพราะวิ่งเยอะ55) ผ้าก็มาส่งไม่ทัน ผ้าซักแล้ว ไม่สะอาด ปูแล้วเปื้อนต้องรื้อเปลี่ยนใหม่
ผ้าขาดปลอกหมอนไม่พอ ผ้าเช็ดมือซักไม่ทัน รอเบิกผ้า เสมียนไม่อยู่ไปกินข้าว จิร้องให้🤣
ก็จัดเป็นช่วงที่แม่บ้านจะเครียดมาก
ส่วนใหญ่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็เกิดจากขาดการจัดวางแผนงานในแต่ละวัน ของฝ่ายแม่บ้านและF/O
1.ถ้าเราตั้งคำถามว่า ช่วงเวลาที่ลูกค้ายังไม่เชคเอาน์แม่บ้านทำอะไรอยู่?
2.ช่วงเวลาที่ลูกค้า เข้าน้อยแม่บ้านทำอะไรอยู่ วันที่ห้องไม่เต็ม เขาทำอะไร?
3.ช่วงโลซีชั่น แม่บ้านทำอะไร?
4.ช่วงที่ส่งห้องสะอาดหมดแล้ว แม่บ้านทำอะไร?
การวางแผนงานฝ่ายแม่บ้านต้องวางล่วงหน้า กันเป็นปี และทุก1ไตรมาส และวางตารางทุกเดือนและทุกวันไว้ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
แยกงานที่ทำประจำปี ประจำไตรมาส ประจำเดือน และประจำวันให้ได้ ว่างานไหนควรทำช่วงไหน
ไม่ใช่รอทำทุกอย่างในช่วงเชคเอาน์อย่างเดียว
ขัดถูทุกที่ในห้องน้ำเช็ดทุกซอกหลืบในช่วงเวลาเร่งรีบ แม่บ้านก็ยิ่งหลุด
" ไม่มีงานปราณีต ใดๆที่ไม่ใช้เวลาและความใจเย็น เว้นแต่คนที่เชี่ยวชาญแล้ว"
แยกงานที่ทำประจำวันกับงานที่ไม่ต้องทำทุกวันให้ได้ ลดงานที่ไม่มีความจำเป็น ลำดับขั้นตอนการทำห้องให้ถูก แยกชนิดการทำห้องแต่ละรูปแบบ ห้องอยู่ต่อ ห้องเชคเอาน์ห้องว่าง ห้องเตรียมเชคอินน์
การจัดเตรียมของใช้ในห้องพัก และอุปกรณ์งานแม่บ้านที่สมบูรณ์ไม่บกพร่องหรือถุงมือขาดชำรุด แปลงขัดพื้นเก่า สก๊อตไบท์เน่า ผ้าขี้ริ้วสกปรก ไม้กวาดดอกหาย ดันฝุ่นไม่มี ของใช้ไม่ครบอุปกรณ์ล้าสมัย สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญมาก... ถึงมากที่สุด
ขยันเพิ่มพูลความรู้และเทคนิคในงาน ดัดแปลงแก้ไขยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์
ระหว่างลูกค้ารอห้องนาน และหงุดหงิด โมโหเวี่ยงวีนที่หน้าฟร้อน
กับห้องพักที่สามารถเชคอินได้อย่างรวดเร็วทันใจ ลูกค้าแฮปปี้มีความสุข ประทับใจ....
การเริ่มต้นทำงานในช่วงเช้ามีความสำคัญมาก เพราะจะไม่ทำให้งานโหลดช้าในช่วงเวลาเร่งรีบ
ถ้าหาก ลูกค้า เชคน์เอาน์ทีเดียวพร้อมกันหลายห้อง
แม่บ้านจะเหนื่อยล้า จัดทำห้องไม่ทัน เกิดอาการรีบรน ถูกกดดันเร่งห้องจากF/O
ใหนจะห้องแขกพักต่อก็จะให้ทำช่วงนั้น ห้องเชคเอาน์ก็ต้องทำ ห้องเตรียมลูกค้าเข้า ก็ต้องทำในช่วงเวลาเดียวกันคือช่วง11-13.00น. เป็นเวลาพักกลางวันพอดี ข้าวก็ยังไม่ได้กินหิวก็หิวเครียดก็เครียด มือเท้าก็อ่อนแรง (เจ็บส้นตีนเพราะวิ่งเยอะ55) ผ้าก็มาส่งไม่ทัน ผ้าซักแล้ว ไม่สะอาด ปูแล้วเปื้อนต้องรื้อเปลี่ยนใหม่
ผ้าขาดปลอกหมอนไม่พอ ผ้าเช็ดมือซักไม่ทัน รอเบิกผ้า เสมียนไม่อยู่ไปกินข้าว จิร้องให้🤣
ก็จัดเป็นช่วงที่แม่บ้านจะเครียดมาก
ส่วนใหญ่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็เกิดจากขาดการจัดวางแผนงานในแต่ละวัน ของฝ่ายแม่บ้านและF/O
1.ถ้าเราตั้งคำถามว่า ช่วงเวลาที่ลูกค้ายังไม่เชคเอาน์แม่บ้านทำอะไรอยู่?
2.ช่วงเวลาที่ลูกค้า เข้าน้อยแม่บ้านทำอะไรอยู่ วันที่ห้องไม่เต็ม เขาทำอะไร?
3.ช่วงโลซีชั่น แม่บ้านทำอะไร?
4.ช่วงที่ส่งห้องสะอาดหมดแล้ว แม่บ้านทำอะไร?
การวางแผนงานฝ่ายแม่บ้านต้องวางล่วงหน้า กันเป็นปี และทุก1ไตรมาส และวางตารางทุกเดือนและทุกวันไว้ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
แยกงานที่ทำประจำปี ประจำไตรมาส ประจำเดือน และประจำวันให้ได้ ว่างานไหนควรทำช่วงไหน
ไม่ใช่รอทำทุกอย่างในช่วงเชคเอาน์อย่างเดียว
ขัดถูทุกที่ในห้องน้ำเช็ดทุกซอกหลืบในช่วงเวลาเร่งรีบ แม่บ้านก็ยิ่งหลุด
" ไม่มีงานปราณีต ใดๆที่ไม่ใช้เวลาและความใจเย็น เว้นแต่คนที่เชี่ยวชาญแล้ว"
แยกงานที่ทำประจำวันกับงานที่ไม่ต้องทำทุกวันให้ได้ ลดงานที่ไม่มีความจำเป็น ลำดับขั้นตอนการทำห้องให้ถูก แยกชนิดการทำห้องแต่ละรูปแบบ ห้องอยู่ต่อ ห้องเชคเอาน์ห้องว่าง ห้องเตรียมเชคอินน์
การจัดเตรียมของใช้ในห้องพัก และอุปกรณ์งานแม่บ้านที่สมบูรณ์ไม่บกพร่องหรือถุงมือขาดชำรุด แปลงขัดพื้นเก่า สก๊อตไบท์เน่า ผ้าขี้ริ้วสกปรก ไม้กวาดดอกหาย ดันฝุ่นไม่มี ของใช้ไม่ครบอุปกรณ์ล้าสมัย สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญมาก... ถึงมากที่สุด
ขยันเพิ่มพูลความรู้และเทคนิคในงาน ดัดแปลงแก้ไขยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์
ระหว่างลูกค้ารอห้องนาน และหงุดหงิด โมโหเวี่ยงวีนที่หน้าฟร้อน
กับห้องพักที่สามารถเชคอินได้อย่างรวดเร็วทันใจ ลูกค้าแฮปปี้มีความสุข ประทับใจ....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น